Heaven Sword and Dragon Saber ดาบมังกรหยก ปี 1979 เพชรน้ำเอกของ TVB T2D 9 แผ่นจบ พากย์ไทย

Product Code: CH0476
Availability: In Stock

Price: ฿225.00

Qty: - OR - Add to Wish List
Add to Compare

Heaven Sword and Dragon Saber ดาบมังกรหยก ปี 1979 เพชรน้ำเอกของ TVB ไฟล์.iso 25.8 GB. ]

( 9 แผ่น )

ดาบมังกรหยกเวอร์ชั่นแรกทางจอแก้ว มี 25 episodes เขียนบท-กำกับการแสดงโดย เฉินอวี๋เชา-เจาเจิ้นเฉียง
เคยฉายทางช่อง 3 นำแสดงโดย .....................

เจิ้งเส้าชิว Adam Cheng รับบท เตียบ่อกี้
วังหมิงฉวน Liza Wang รับบท เตี๋ยเมี่ยง
เจ้าหย่าจือ Angie Chiu รับบท จิวจี้เยียก
เซี่ยอวี่ Ha Yu รับบท เตียชุ่ยซัว
หวงซู่อี้ Gigi Wong รับบท ฮึงซู่ซู่
เฉินอวี้เหลียน Idy Chan รับบท เสี่ยวเจียว
กวนไห่ซัน Kwan Hoi-San รับบท เตียซำฮง เจ้าสำนักบู๊ตึ้ง
หวงอวิ๋นไฉ Wong Wan Choi รับบท เอี้ยเซียว
หยางพ่านพ่าน Yang Pan Pan รับสองบทคือ กีเฮียวพู้ คนรักของเอี้ยเซียว และบท เอี้ยปุ๊กหุ่ย ลูกสาว เอี้ยเซียว-กีเฮียวพู้ด้วย
ไป่เหวินเปียว Bai Wen Biao รับบทพญาเหยี่ยวคิ้วขาว ฮึงเทียนเจี่ย
สือเจียน Sek Kin รับบทราชสีห์ขนทองเซี่ยซวิ่น
หยางเหยียนถัง Yang Yan Tang รับบท ค้างคางปีกเขียว อุ้ยเจ็กเฉี่ย
ซือหมิง Shi Ming รับบท มังกรเสื้อม่วง ไดอีซี
ซ่างกวนอวี้ Shang Kuan Yu รับบท แม่ชีมิกจ้อ
เจียงอี้ Jiang Yi รับบท เซ่งคุน
จวงเหวินชิง Chuang Wen Ching รับบท ฮึงลี้
กวานชง Guan Cong รับบท ซ่งแชจือ
เฉินฟู่เซิง Chen Fu Sheng รับบท จูเก้าจิน
หลินซินซิน Lin Xin Xin รับบท แม่นางเสื้อเหลือง

ดาบมังกรหยก (หรือ มังกรหยกภาค 3 หรือ กระบี่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกร)
ภาษาจีนกลางใช้ชื่อว่า Yi Tian Tu Long Ji (อี๋เทียนถูหลงจี้)
ภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า The Heaven Sword and Dragon Saber

ข้อมูลนี้อิงบทประพันธ์เรื่องดาบมังกรหยกของกิมย้งฉบับแก้ไขล่าสุด (กรกฎาคม 2004 แต่ตีพิมพ์ต้นปี 2005) ซึ่งอาจมีข้อแตกต่างจากดาบมังกรหยกที่เป็นละครและภาพยนตร์ในรายละเอียด

ปลีกย่อยของแต่ละเวอร์ชั่นและคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริงตามประวัติศาสตร์ในบางประเด็น

ครั้งกระโน้นก๊วยเจ๋งอึ้งย้งต่อสู้กับกองทัพมองโกล เมื่อเห็นว่าไม่อาจรักษาเมืองเซียงเอี้ยงไว้ได้จึงยอมพลีชีพเพื่อชาติ แต่ด้วยสติปัญญาของอึ้งย้ง ไหนเลยยอมให้ความตายสูญเปล่า

มาตรว่ามองโกลสามารถยึดครองแผ่นดินตงง้วน ชาวฮั่นย่อมไม่ขอตกเป็นทาสตลอดไป ภายหน้าย่อมเกิดการต่อสู้ทำสงคราม

ถีงคราวนั้นตำราพิชัยสงครามของงักฮุยและคัมภีร์เก้าอิมจินเก็งย่อมมีคุณใหญ่ หลวง จึงจ้างช่างฝีมือดีหลอมกระบี่เหล็กนิลซึ่งเอี้ยก้วย (ได้มาจากสุสานต๊กโกวคิ้วป่าย)

มอบให้ มาสร้างเป็นกระบี่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกร ภายในซ่อนแผ่นเหล็กสลักแผนที่ซ่อนตำราพิชัยสงครามและคัมภีร์เก้าอิมจินเก็งเอาไว้

ร้อยปีมานี้ยุทธจักรมีคำกล่าวขานว่า “เทิดทูนเหนือยุทธจักร ดาบวิเศษพิฆาตมังกร ประกาศิตทั้งไตรภพ มิกล้าสยบนบนอบ แม้นอิงฟ้าไม่อุบัติ ผู้ใดกล้าสัประยุทธ์”

กระบี่อิงฟ้าดาบฆ่ามังกร จึงเป็นศัตราวุธล้ำเลิศที่ล่อใจชาวยุทธให้พากันตามล่าช่วงชิงเพื่อค้นหาความหมายที่แท้จริง ก่อเกิดเป็น

เรื่องราวขึ้นมากมาย

ตัวละครในดาบมังกรหยก (ชื่อแรกคือเสียงจีนแต้จิ๋ว ชื่อในวงเล็บคือเสียงจีนกลาง)

เตียซำฮง (จางซันฟง)
(เป็นประวัติตามนวนิยายเรื่องดาบมังกรหยกของกิมย้ง ซึ่งมีบางส่วนแตกต่างจากประวัติจริงของท่าน)

เตียซำฮง (จางซันฟง) มีชื่อเดิมว่า เตียกุงป้อ (จางจวินเป่า) เคยเป็นเด็กวัดเส้าหลิน มีหน้าที่ปัดกวาดทำความสะอาดหอคัมภีร์ และรับใช้กักเอี้ยงไต้ซือผู้เป็นอาจารย์

ครั้งหนึ่งปรมาจารย์ตั๊กม้อคัดลอกคัมภีร์เล้งเกียเก็ง หรือคัมภีร์ลังกาวตารสูตร อาศัยช่องว่างระหว่างบรรทัดบันทึกคัมภีร์เก้าเอี้ยงจินเก็ง

หรือคัมภีร์นวภพลงไปด้วย กักเอี้ยงไต้ซือเข้าใจว่าเป็นวิชาเสริมสุขภาพ ท่านและเตียกุงป้อ จึงฝึกปรือจนถึงขั้นสูงโดยไม่รู้ตัว

กักเอี้ยงไต้ซือเป็นคนยึดถือเถรตรง ขณะท่องเคล็ดวิชาทุกบรรทัด จึงท่องคัมภีร์ลังกาวตารสูตรซึ่งเป็นภาษาสันสกฤตออกมาด้วย ก๊วยเซียงและบ่อเส็กเซียงซือได้ยินเข้าก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง

จดจำได้สามสี่ส่วน (ต่อมาก๊วยเซียงที่เฝ้าตามหาและรอคอยเอี้ยก้วยที่ถอนตัวจากยุทธภพนานเท่าใดก็ไม่พบเสียที

จึงออกบวชเป็นชีและก่อตั้งสำนักง่อไบ๊ขึ้น ส่วนเตียกุงป้อได้รับการถ่ายทอดเคล็ดวิชาจากกักเอี้ยงไต้ซือเป็นเวลานานจึง สามารถท่องจำได้ห้าหกส่วน)

เซียวเซียงจื้อและอึ้งโคกไซ หรืออีเคอซีแห่งมองโกลได้ขโมยคัมภีร์นวภพออกไป กักเอี้ยงไต้ซือผู้เฝ้าหอคัมภีร์จึงถูกลงโทษล่ามโซ่ให้แบกน้ำขึ้นลงเขาทุก วัน หลายปีต่อมา ฮ่อจกเต๋า หรือฉายา

สามศักดิ์สิทธิ์คุนลุ้น ได้เดินทางมายังวัดเส้าหลินบอกข่าวว่า อีเคอซีและเซียวเซียงจื้อต่อสู้แย่งคัมภีร์นวภพกันจนล้มตายทั้งคู่ ก่อนตายอีเคอซีได้ฝากฮ่อจกเต๋ามาบอกวัดเส้าหลินว่า "คัมภีร์อยู่ในน้ำมัน"

แต่ความจริงแล้วอีเคอซี กล่าวคำว่า “เก็งต่อเก้าตัง” แปลว่า "คัมภีร์อยู่ในวานร" แต่ออกเสียงไม่ชัดเจน ฮ่อจกเต๋ากลับฟังเป็น “เก็งต่ออิ้วตัง” แปลว่า "คัมภีร์อยู่ในน้ำมัน"

ฮ่อจกเต๋า อาศัยอยู่ในแถบภูเขาคุนลุ้น มีวิชาสามอย่างที่เยี่ยมยอดคือ พิณ หมากล้อม และกระบี่ จึงมีผู้ยกย่องให้เป็น "คุนลุ้นซาเสี่ย" หรือ "สามศักดิ์สิทธิ์คุนลุ้น" แต่ฮ่อจกเต๋าไม่อาจรับคำยกย่องว่าศักดิ์สิทธิ์

จึงเปลี่ยนชื่อตนเองเป็น "จกเต๋า" แปลว่า "ไยพึงกล่าวอ้าง" เพื่อให้ผู้คนเรียกเป็น "คุนลุ้นซาเสี่ยฮ่อจกเต๋า" หรือ "ไยพึงกล่าวอ้างเป็นสามศักดิ์สิทธิ์คุนลุ้น"

3 หลวงจีนจากสำนักเส้าหลินสาขาไซฮก (เดิมอยู่วัดเส้าหลินแต่เกิดขัดแย้งจึงออกไปตั้งสำนักที่ไซฮก ปัจจุบันอยู่ในเขตมณฑลซินเกียง)

ไม่ยอมรับฉายากระบี่ศักดิ์สิทธิ์ จึงวางแผนยุยงส่งเทียบเชิญว่าฮ่อจกเต๋าขอประลองกับวัดเส้าหลิน

เมื่อฮ่อจกเต๋ามาถึงวัดเส้าหลินเพื่อแจ้งข่าว จึงถูกท้าประลองเพื่อพิสูจน์ฉายากระบี่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ฮ่อจกเต๋าเห็นว่ารุนแรงเกินไปจึงขอประลองด้วยหมากล้อม

และได้ประมือกับกักเอี้ยงไต้ซือซึ่งแม้มีพละกำลังมหาศาลแต่ไม่ได้ร่ำเรียน การต่อสู้ เตียกุงป้อเห็นอาจารย์ของตนถูกจู่โจมจวนเสียท่าจึงเข้าขวางและสามารถเอา

ชนะฮ่อจกเต๋าด้วยพลังนวภพที่ฝึกมาหลายปีโดยไม่รู้ตัว บวกกับกระบวนท่าที่ได้รับมา จากเอี้ยก้วย แต่กฏของวัดเส้าหลินห้ามแอบฝึกวิชาโดยไม่ได้รับอนุญาต

เตียกุงป้อจึงมีความผิดต้องรับการลงโทษ ด้วยความเป็นห่วงศิษย์ของตน กักเอี้ยงไต้ซือจึงช่วยเตียกุงป้อหนีรอดออกมาได้

เมื่อเตียกุงป้อออกจากวัดเส้าหลินแล้ว ได้ศึกษาตำราลัทธิเต๋าเพิ่มพูนทักษะวิธีฝึกลมปราณแบบนักพรต วันหนึ่งเตียกุงป้อท่องเที่ยวไปตามขุนเขา ทัศนาธารน้ำไหล

พลันเกิดกระจ่างใจในเคล็ดแห่งคัมภีร์เต๋าเต็กเก็งของเล่าจื๊อที่กล่าวไว้ว่า…

“ทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลง”
“ยอมเก่าจึงใหม่ได้”
“ว่างเปล่าจึงเติมเต็ม”
“อ่อนพิชิตแข็ง นุ่มพิชิตกร้าว”

ด้วยวิถีแห่งเต๋าที่เน้นความว่างเปล่ากลมกลืน ผนวกเข้ากับคัมภีร์เก้าเอี้ยงจินเก็ง (คัมภีร์นวภพ) เตียกุงป้อจึงคิดค้นผสมผสานวิชาหมัดมวยแขนงใหม่

ก่อตั้งสำนักบู๊ตึง (อู่ตัง) ขึ้น ต่อมาเตียกุงป้อท่องเที่ยวขึ้นทางเหนือ เห็นภูเขาสามลูกเรียงรายโดดเด่นกลางทะเลเมฆ จึงเรียกตัวเองว่า “เตียซำฮง” หรือ “จางซันฟง”

มีลูกศิษย์รุ่นแรก 7 คนเรียงตามลำดับอาวุโสคือ..............

1. ซ่งเอี๋ยงเกี้ย (ซ่งหยวนเฉียว)
2. ยู้เหน่ยจิว (อวี๋เหลียนโจว)
3. ยู้ไต่ง้ำ (อวี๋ไต้เอี๋ยน)
4. เตียส่งโคย (จางซงซี)
5. เตียฉุ่ยซัว (จางชุ่ยซัน)
6. ฮึงหลีเต็ง (อินลี่ถิง)
7. มกเซียก๊ก (มั่วเซิงกู่)
เตียฉุ่ยซัว (จางชุ่ยซาน)

เตียฉุ่ยซัว หรือ เตียชุ่ยซัว ฉายาตะขอเงินพู่กันเหล็ก เป็นศิษย์คนที่ 5 ของเตียซำฮง ปรมาจารย์แห่งสำนักบู๊ตึงซึ่งมีคำสั่งให้ ยู้ไต๋ง้ำ ศิษย์คนที่ 3 ไปช่วยปราบโจรร้าย

ขจัดภัยให้แก่ชาวบ้าน กลับกลายเป็นว่ายู้ไต๋ง้ำต้องเข้าไปพัวพันกับสำนักเกลือสมุทรกับสำนักทราย ทะเลซึ่งกำลังแย่งชิงดาบฆ่ามังกรกันอยู่และถูกลอบทำร้ายจนพิการ

เตียฉุ่ยซัวจึงออกตามหาคนร้าย ระหว่างทางได้รู้จักกับฮึงซู่ซู่แห่งพรรคเหยี่ยวฟ้าซึ่งได้ครอบครองดาบฆ่ามังกร ฮึงซู่ซู่ (อินซู่ซู่ )

ฮึงซู่ซู่เป็นลูกสาวของพญาเหยี่ยวคิ้วขาว หรือ อินทรีคิ้วขาว ฮึงเทียนเจี่ย ประมุขนิกายเหยี่ยวฟ้าซึ่งได้เชิญสำนักต่างๆมาชมดาบฆ่ามังกร

แต่กลับถูกราชสีห์ขนทองเจี่ยซุ่นแย่งชิงไป พร้อมบังคับให้เตียฉุ่ยซัวและฮึงซู่ซู่ไปเกาะเฮ้งปั้วซัว

หรือเกาะน้ำแข็งอัคคีที่ร้างผู้คน เพราะไม่ต้องการให้ข่าวรั่วไหล ด้วยเกรงว่าจะถูกยอดฝีมือแย่งชิงดาบฆ่ามังกรไปก่อนที่จะเข้าใจความลับ

ที่ซ่อนอยู่ในดาบว่าเหตุใดในยุทธภพจึงมีคำกล่าวว่า "เทิดทูนทั่วหล้า ดาบฆ่ามังกร ประกาศิตทุกชีวิต มิกล้าฝ่าฝืน อิงฟ้าไม่มา ใครหาญกล้าต่อกร"

เตียฉุ่ยซัวและฮึงซู่ซู่เกิดเห็นอกเห็นใจรักใคร่กัน และให้กำเนิดลูกชายบนเกาะร้าง ราชสีห์ขนทองเกิดอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายเตียฉุ่ยซัวและฮึงซู่ซู่ จึงถูกฮึงซู่ซู่ซัดเข็มพิษใส่

จนตาบอดทั้งสองข้าง เมื่อรู้สาเหตุที่ทำให้ราชสีห์ขนทองกลายเป็นคนคุ้มดีคุ้มร้ายเพราะถูกทรยศและยังตาบอดเพราะตน

เตียฉุ่ยซัวและฮึงซู่ซู่จึงเกิดความเห็นใจ อยู่ดูแลเจี่ยซุ่นและสาบานเป็นพี่น้องกัน พร้อมยกลูกชายให้เป็นลูกบุญธรรมของเจี่ยซุ่น เพื่อจะได้ปลอดภัยจากการถูกทำร้าย

หลังจากนั้นหลายปีทั้งสองจึงพาลูกชายกลับสู่จงหยวน ในวันเกิดครบรอบร้อยปีของเตียซำฮง ชาวยุทธทั้งหลายต่างมาร่วมอวยพร คงบุ่งไต้ซือ

เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินถามหาเตียฉุ่ยซัวด้วยอยากทราบว่าเขามีส่วนรู้เห็นในการ ตายของ 71 ชีวิตในสำนักคุ้มภัยประตูมังกรซึ่งเป็นกิจการของศิษย์วัดเส้าหลินหรือไม่

และยังขอให้บอกร่องรอยของราชสีห์ขนทองที่ปลิดชีพคงเกี่ยงไต้ซือ เตียฉุ่ยซัวรู้ว่าเป็นฝีมือของฮึงซู่ซู่ อีกทั้งไม่คิดเปิดเผยร่องรอยของราชสีห์ขนทอง

จึงชดใช้ด้วยการฆ่าตัวตาย ฮึงซู่ซู่บอกว่าจะเผยร่องรอยของราชสีห์ขนทองต่อคงบุ่งไต้ซือเจ้าอาวาสเสียว ลิ้มยี่เพียงผู้เดียว จากนั้นจึงกระซิบข้างหูคงบุ่งไต้ซือว่า

“ ราชสีห์ขนทองซ่อนตัวอยู่ที่ .… อยู่ที่นั้นเอง สำนักเสียวลิ้มท่านไปเสาะหาเองเถอะ ” ฮึงซู่ซู่โอบอุ้มลูกชายแนบอก กล่าวเสียงแผ่วเบาว่า…

“เด็กเอ๋ย เมื่อเจ้าเติบใหญ่ให้ระวังสตรีหลอกลวงเจ้า สตรียิ่งงดงามน่าดู ยิ่งรู้จักหลอกลวงผู้คน”

แล้วจึงกระซิบข้างหูเตียบ่อกี้ว่า “ เราไม่ได้บอกต่อหลวงจีนรูปนี้ เราหลอกลวงเขา เจ้าดูมารดาเจ้า… รู้จักหลอกลวงคนนัก ”

จากนั้นนางจึงปลิดชีพตัวเองตายตามสามี

เตียบ่อกี้ (จางอู๋จี้)

เตียบ่อกี้ เป็นบุตรชายของเตียฉุ่ยซัวและ ฮึงซู่ซู่ ซึ่งทั้งสองได้ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของราชสีห์ขนทองเจี่ยซุ่น เจี่ยซุ่นเป็นผู้ตั้งชื่อให้โดยเอาชื่อลูกชายที่เสียชีวิตไปมาใช้

พร้อมแซ่ของตนว่า เจี่ยบ่อกี้ แปลว่าไร้ข้อห้าม และบอกให้เจี่ยบ่อกี้กลับไปใช้แซ่เดิมของพ่อ เป็นเตียบ่อกี้ เมื่อกลับตงง้วน (จงหยวน)

เมื่อกลับสู่แผ่นดินใหญ่ เตียบ่อกี้โดนฝ่ามือของภูตเร้นลับทำให้พิษเย็นแทรกซึมเข้าร่าง เตียซำฮงจึงพาเตียบ่อกี้ไปรักษากับหมอเทวดาโอ้วแชงู้ (หูชิงหนิว) ที่หุบเขาผีเสื้อ

ทำให้เตียบ่อกี้ได้รับการถ่ายทอดวิชาแพทย์จากหมอเทวดามาด้วยเตียบ่อกี้เป็น คนโชคดีมีวาสนา มีโอกาสได้ฝึกทั้งคัมภีร์เก้าเอี้ยง (คัมภีร์นวภพ) และคัมภีร์เคลื่อนย้าย

จักรวาลคัมภีร์เก้าเอี้ยง หรือคัมภีร์นวภพนั้น เตียบ่อกี้พบโดยบังเอิญจากการช่วยเหลือค่างขาวผ่าฝีเม็ดใหญ่ที่ท้องซึ่งมี คัมภีร์ซ่อนอยู่

เมื่อ 90 กว่าปีก่อนนั้น เซียวเซียงจื้อ กับ อีเคอซี ขโมยคัมภีร์เล่มนี้จากหอคัมภีร์วัดเส้าหลิน ถูกกักเอี้ยงไต้ซือติดตามจนถึงยอดเขาฮั้วซัว เมื่อเห็นว่าไม่สามารถหนีรอดได้

จึงผ่าท้องของค่างเพื่อซ่อนคัมภีร์ไว้ ค่างตัวนั้นอยู่ในภูเขาคุนลุ้นได้กินผลท้อวิเศษจึงมีอายุยืนยาว

เพียงแต่ขนยาวสีดำได้เปลี่ยนเป็นสีขาว เมื่อเตียบ่อกี้ผ่านมาพบค่างขาวที่เป็นฝีหนองที่ท้อง เตียบ่อกี้เคยเรียนวิชาแพทย์จากหมอเทวดาโอ้วแชงู้

จึงผ่าฝีให้ค่างขาวและได้พบว่ามีคัมภีร์ซ่อนอยู่ ค่างขาวสำนึกบุญคุณที่เตียบ่อกี้ให้การรักษา จึงนำผลท้อวิเศษที่สามารถเพิ่มพลังบำรุงร่างกายมาเป็นของกำนัลอยู่เสมอ

เมื่อเตียบ่อกี้ฝึกคัมภีร์ภาคที่สองไม่ถึงครึ่งเล่ม พิษเย็นภายในกายจึงถูกขจัดจนหมดสิ้น ในเวลาสามปี เตียบ่อกี้ก็สามารถฝึกคัมภีร์จนจบภาคสุดท้ายได้อย่างแตกฉาน

ส่วนคัมภีร์เคลื่อนย้ายจักรวาลนั้นคือ คัมภีร์อัคคีศักดิ์สิทธิ์นิกายเม้งก่า ที่สืบทอดมาจากสาขาใหญ่ที่เปอร์เซีย เตียบ่อกี้พบโดยบังเอิญในอุโมงค์ลับข้างโครงกระดูก

เอี้ยงฮูหยิน ภรรยาเอี้ยงเต็งเทียน ประมุขนิกายเม้งก่าที่ฆ่าตัวตายเพราะถูกประมุขจับได้ว่ายังลอบพบกับเซ่งคุนคนรักเก่า

เมื่อเตียบ่อกี้ฝึกคัมภีร์เคลื่อนย้ายจักรวาลสำเร็จหกขั้น พอถึงขั้นที่เจ็ดเมื่อไม่เข้าใจก็หยุดเพราะคิดว่าเพียงพอแล้ว

มิเช่นนั้นต้องถูกธาตุไฟเข้าแทรก ไม่พิการก็เสียชีวิตเพราะผู้บัญญัติคัมภีร์เองก็สำเร็จเพียงขั้นที่หก แล้วแต่งขั้นที่เจ็ดเอาจากจินตนาการ

ชีวิตของเตียบ่อกี้มีหญิงงามมาพัวพันถึง 4 คนคือ เตี๋ยเมี่ยง , จิวจี้เยียก , เสี่ยวเจียว , ฮึงลี้ แต่ละคนล้วนมีความรักต่อเขาอย่างลึกซึ้ง

ด้วยความเป็นคนมีน้ำใจไมตรีกับทุกคน ทั้งยังอ่อนไหวไม่เด็ดขาด ทำให้บางครั้งนำมาซึ่งความวุ่นวายในชีวิต ดังคำที่แม่เคยบอกไว้ก่อนตายว่า…

“เด็กเอ๋ย เมื่อเจ้าเติบใหญ่ให้ระวังสตรีหลอกลวงเจ้า สตรียิ่งงดงามน่าดู ยิ่งรู้จักหลอกลวงผู้คน”

เตียบ่อกี้ได้ช่วยไกล่เกลี่ยความบาดหมางระหว่างพรรคเม้งก่ากับชาวยุทธจนได้ เป็นประมุขนิกายเม้งก่าดินแดนตงง้วนในที่สุด หลังจากปราบปรามศัตรูลงราบคาบ

สมาชิกนิกายเม้งก่าขอให้เตียบ่อกี้ตั้งตนเป็นเจ้าปกครองราษฎร แต่เตียบ่อกี้ยืนยันหนักแน่นที่จะไม่สถาปนาตัวเองเป็นกษัตริย์

หลังจากนั้น จูง้วนเจียง (จูหยวนจาง) หนึ่งในสมาชิกนิกายเม้งก่า จึงตั้งตนเป็นโง้วอ๋องทำสงครามกับตั้งอิ้วเหลียงที่ทะเลสาบพัวเอี้ยง (ผอหยาง)

จูง้วนเจียงเป็นฝ่ายมีชัยสังหารตั้งอิ้วเหลียง ล้มล้างกองกำลังที่เป็นปรปักษ์ กรีฑาทัพขึ้นเหนือขับไล่ซุ่นตี่กษัตริยิ์มองโกลกลับถิ่น.

ราชวงศ์มองโกลที่ปกครองแผ่นดินจีนจึงสิ้นสุดลงนับแต่นั้น จูง้วนเจียงสถาปนาตนเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์เหม็ง หรือ เม้ง (ราชวงศ์หมิง) ซึ่งนำชื่อนิกายเม้งก่ามา

ใช้เพื่อเป็นการให้เกียรติ แต่เนื่องจากนิกายเม้งก่าปกป้องราษฎรจึงถูกกวาดล้าง พอนานวันเข้าผู้นำนิกายรุ่นต่อมาไร้ความสามารถ นิกายเม้งก่าจึงเสื่อมโทรมลงตามลำดับ .